Subjects -> AGRICULTURE (Total: 963 journals)
    - AGRICULTURAL ECONOMICS (93 journals)
    - AGRICULTURE (662 journals)
    - CROP PRODUCTION AND SOIL (120 journals)
    - DAIRYING AND DAIRY PRODUCTS (30 journals)
    - POULTRY AND LIVESTOCK (58 journals)

AGRICULTURE (662 journals)            First | 1 2 3 4     

Showing 601 - 263 of 263 Journals sorted alphabetically
Rural Sustainability Research     Open Access   (Followers: 2)
RURALS : Review of Undergraduate Research in Agricultural and Life Sciences     Open Access   (Followers: 1)
SAARC Journal of Agriculture     Open Access  
Sabaragamuwa University Journal     Open Access  
Sainteknol : Jurnal Sains dan Teknologi     Open Access  
Savana Cendana     Open Access  
Savannah Journal of Research and Development     Open Access  
Science and Technology Indonesia     Open Access  
Science as Culture     Hybrid Journal   (Followers: 12)
Science, Technology and Arts Research Journal     Open Access   (Followers: 1)
Scientia Agricola     Open Access  
Scientia Agropecuaria     Open Access  
Seed Science and Technology     Full-text available via subscription  
Seed Science Research     Hybrid Journal  
Selçuk Tarım ve Gıda Bilimleri Dergisi     Open Access  
Semiárida     Open Access  
Siembra     Open Access  
Small Ruminant Research     Hybrid Journal   (Followers: 2)
Smart Agricultural Technology     Open Access  
Social & Cultural Geography     Hybrid Journal   (Followers: 26)
Social and Natural Sciences Journal     Open Access  
South African Journal of Agricultural Extension     Open Access   (Followers: 3)
South African Journal of Economics : SAJE     Hybrid Journal   (Followers: 7)
South African Journal of Plant and Soil     Hybrid Journal   (Followers: 1)
Spatial Economic Analysis     Hybrid Journal   (Followers: 10)
Sri Lanka Journal of Food and Agriculture     Open Access   (Followers: 1)
Stiinta Agricola     Open Access  
Studies in Australian Garden History     Full-text available via subscription   (Followers: 5)
Sugar Tech     Hybrid Journal   (Followers: 1)
Sustainability Agri Food and Environmental Research     Open Access   (Followers: 4)
Sustainability and Climate Change     Full-text available via subscription   (Followers: 12)
Sustainable Agriculture Research     Open Access   (Followers: 3)
Sustainable Environment Agricultural Science (SEAS)     Open Access  
Tanzania Journal of Agricultural Sciences     Open Access   (Followers: 4)
Terra Latinoamericana     Open Access  
The Agriculturists     Open Access  
The Journal of Research, PJTSAU     Open Access   (Followers: 7)
Translational Animal Science     Open Access  
Trends in Agricultural Economics     Open Access   (Followers: 7)
Tropical Agricultural Research     Open Access   (Followers: 2)
Tropical Agricultural Research and Extension     Open Access   (Followers: 2)
Tropical and Subtropical Agroecosystems     Open Access  
Tropical Grasslands - Forrajes Tropicales     Open Access  
Tropical Technology Journal     Open Access  
Tropicultura     Open Access  
Turkish Journal of Agricultural and Natural Science / Türk Tarım ve Doğa Bilimleri Dergisi     Open Access  
Turkish Journal of Agricultural Engineering Research     Open Access   (Followers: 2)
Ukrainian Journal of Veterinary and Agricultural Sciences     Open Access  
Uluslararası Tarım ve Yaban Hayatı Bilimleri Dergisi / International Journal of Agricultural and Wildlife Sciences     Open Access  
UNICIÊNCIAS     Open Access   (Followers: 1)
Universal Journal of Agricultural Research     Open Access  
Universidad y Ciencia     Open Access  
Urban Agricultural & Regional Food Systems     Open Access   (Followers: 1)
Viticulture Data Journal     Open Access  
VITIS : Journal of Grapevine Research     Open Access   (Followers: 1)
Walailak Journal of Science and Technology     Open Access  
Wartazoa. Indonesian Bulletin of Animal and Veterinary Sciences     Open Access   (Followers: 1)
Weed Biology and Management     Hybrid Journal   (Followers: 4)
Weed Research     Hybrid Journal   (Followers: 5)
Welwitschia International Journal of Agricultural Sciences     Open Access   (Followers: 5)
West African Journal of Applied Ecology     Open Access  
Wildlife Australia     Full-text available via subscription   (Followers: 2)
Wirtschaftsdienst     Hybrid Journal   (Followers: 5)
World Journal of Agricultural Research     Open Access  
World Mycotoxin Journal     Hybrid Journal   (Followers: 3)
World's Poultry Science Journal     Full-text available via subscription   (Followers: 3)
علوم آب و خاک     Open Access  

  First | 1 2 3 4     

Similar Journals
Journal Cover
South African Journal of Agricultural Extension
Number of Followers: 3  

  This is an Open Access Journal Open Access journal
ISSN (Print) 0301-603X - ISSN (Online) 2413-3221
Published by SciELO Homepage  [688 journals]

  •        ผลของอุณหภูมิและระยะเวลาในระหว่างการเตรียมพร้อมเมล็ดพันธุ์ด้วยน้ำ
           

    • Authors: พิจิตรา แก้วสอน, ปวีณ แสงสุรศิลป์ , ปริยานุช จุลกะ
      Pages: 1 - 9
      Abstract: เมล็ดบักวีตมักมีปัญหาความงอกต่ำ งอกได้ช้า และไม่สม่ำเสมอในสภาพแปลง ดังนั้นวัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้เพื่อศึกษาผลของอุณหภูมิและระยะเวลาในระหว่างการเตรียมพร้อมเมล็ดพันธุ์ด้วยน้ำต่อความงอก และความแข็งแรงของเมล็ดพันธุ์บักวีตเพื่อกระตุ้นการงอกของเมล็ด โดยนำเมล็ดมาแช่ในน้ำ Reverse Osmosis (RO) ที่อุณหภูมิและระยะเวลาแตกต่างกัน จากนั้นลดความชื้นลงให้เหลือประมาณ 8% ทำการทดลอง           ณ ห้องปฏิบัติการเทคโนโลยีเมล็ดพันธุ์ ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระหว่างเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2560 โดยจัดสิ่งทดลองแบบ 2×3 แฟคทอเรียลในแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ โดยเมล็ดที่ไม่ผ่านการเตรียมพร้อมเมล็ดพันธุ์เป็นวิธีควบคุม (Control) ทำการทดลอง 2 ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัย A คือ อุณหภูมิ มี 2 ระดับ ได้แก่ 20 และ 30°ซ. ปัจจัย B คือ ระยะเวลาในการแช่เมล็ด มี 3 ระดับ ได้แก่ 6, 12 และ 18 ชม. จากผลการทดลองพบว่า                    การเตรียมพร้อมเมล็ดพันธุ์ด้วยน้ำที่อุณหภูมิ 30°ซ.      เป็นเวลา 18 ชม. ทำให้เมล็ดมีความงอกสูง (90.50%)     มีจำนวนวันที่มีรากงอก (1.33 วัน) และมีเวลาเฉลี่ย   &nbs...
      PubDate: 2021-08-27
      Issue No: Vol. 38, No. 2 (2021)
       

  •        การสะสมธาตุอาหารในดินและใบของต้นกล้าปาล์มน้ำมันระยะอนุบาลหลัก
           

    • Authors: อธิวัฒน์ ขาวสวั, ธนัญชนก ไชยรินทร์, Jakarat Anothai
      Pages: 10 - 24
      Abstract: การจัดการปัจจัยการผลิตอย่างเหมาะสมโดยเฉพาะน้ำและปุ๋ยมีความสำคัญยิ่งสำหรับการดูแลรักษาต้นกล้าปาล์มน้ำมันระยะอนุบาลหลัก วัตถุประสงค์ของการทดลองเพื่อศึกษาผลของการใส่ปุ๋ยทางระบบ     น้ำหยดและการใส่ปุ๋ยเม็ดแบบโรยในถุงต่อปริมาณ       ธาตุอาหารในดินและใบ รวมทั้งประสิทธิภาพการนำใช้ธาตุอาหารสำหรับสร้างมวลชีวภาพของต้นกล้าปาล์มน้ำมันระยะอนุบาลหลัก ดำเนินการในแปลงเพาะกล้าปาล์มน้ำมันซีพีไอ ไฮบริด สาขาตรัง และสาขานครศรีธรรมราช วางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ ประกอบด้วย 2  ทรีตเมนต์ 4 ซ้ำ ได้แก่ 1) โรยปุ๋ยเม็ดในถุงตามวิธีปฏิบัติของเกษตรกร และ 2) ให้ปุ๋ยทางระบบน้ำหยด บันทึกข้อมูลปริมาณธาตุอาหารในดิน ใบ และประเมินประสิทธิภาพการใช้ธาตุอาหารทุกๆ 4 สัปดาห์ ผลการศึกษาของแปลงสาขาตรัง พบว่าการใส่ปุ๋ยเม็ดทำให้ไนโตรเจนทั้งหมด (N) และฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (P) ในดิน      สูงกว่าการใส่ปุ๋ยทางระบบน้ำ แต่ปริมาณธาตุอาหารในใบส่วนใหญ่ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ          (p>0.05) ส่วนความสามารถของพืชในการเปลี่ยนธาตุอา&#...
      PubDate: 2021-08-28
      Issue No: Vol. 38, No. 2 (2021)
       

  •        

    • Authors: จีราภรณ์ อินทสาร
      Pages: 25 - 35
      Abstract: การศึกษาผลของวัสดุปรับปรุงดินต่อการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีดินบางประการในชุดดินสระบุรี โดยทำการเก็บตัวอย่างดินในแปลงไถพรวนของศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ จังหวัดสระบุรี ตั้งแต่เดือนมีนาคม-สิงหาคม พ.ศ. 2562 ทำการบ่มดินด้วยวัสดุปรับปรุงดินทั้งวัสดุอินทรีย์และวัสดุอนินทรีย์ โดยวางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ ประกอบด้วย 6 ตำรับการทดลอง 3 ซ้ำ ดังนี้ 1) ควบคุม 2) กากกาแฟ 3) เปลือกเชอร์รี่กาแฟ 4) กากตะกอนอ้อย 5) ภูไมท์ซัลเฟต และ 6) ผงกำมะถัน ผลการศึกษาพบว่าการใช้วัสดุปรับปรุงดินในรูปของวัสดุอินทรีย์ตอบสนองต่อคุณสมบัติทางเคมีดินบางประการมากกว่าวัสดุอนินทรีย์โดยเฉพาะกากกาแฟทำให้มีค่าความเป็นกรดด่างลดลงมากที่สุด คือ 7.01 จากเดิม 7.73 หลังจากทำการทดลองในระยะเวลา 12 สัปดาห์ (p<0.01) และทำให้ปริมาณอินทรียวัตถุในดินจากการใส่กากกาแฟสูงที่สุด คือ 4.4% ส่วนตำรับกากตะกอนอ้อยทำให้ปริมาณฟอสฟอรัสและแคลเซียมที่สกัดได้ในดินสูงที่สุดหลังการบ่ม (22 มก./กก. และ 9,997 มก./กก.) ตามลำดับ การใช้เปลือกเชอร์รี่กาแฟส่งผลให้ปริมาณโพแทสเซียมที่สกัดได้ในดินสูงขึ้...
      PubDate: 2021-08-28
      Issue No: Vol. 38, No. 2 (2021)
       

  •        ประสิทธิภาพของสารสกัดหยาบจากเชื้อรา
           Chaetomium globosum
           ในการยับยั้งเชื้อรา Bipolaris maydis
           
           

    • Authors: Orawan Piyaboon, ธราดร อึ้งประสิทธิ์, สิรวิชญ์ สว่างแจ้ง , ธัชวรรธน์ ปัญญาวุฒิเลิศ
      Pages: 36 - 45
      Abstract: เชื้อรา Bipolaris เป็นเชื้อราที่ก่อโรคใบไหม้ในข้าวโพดทำให้ลดการสังเคราะห์ด้วยแสงของข้าวโพด และสร้างความสูญเสียแก่ผลผลิตที่สำคัญในประเทศไทย การใช้ชีววิธีในการควบคุมโรคพืชโดยเฉพาะการใช้เชื้อรา Chaetomium globosum มีศักยภาพในการควบคุม เชื้อราก่อโรคต่างๆ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการยับยั้งเชื้อรา B. maydis ด้วยเชื้อรา          C. globosum และประสิทธิภาพของสารสกัดหยาบจากเชื้อรา C. globosum ในการยับยั้งเชื้อรา B. maydis ภายใต้สภาพห้องปฏิบัติการและสภาพโรงเรือน วิธีทดลองแรกเป็นการเลี้ยงเชื้อรา B. maydis และ C. globosum และทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดหยาบจากเชื้อรา C. globosum ในการยับยั้งเชื้อรา B. maydis ภายใต้ห้องปฏิบัติการด้วยวิธีการเลี้ยงเชื้อร่วมกัน ผลการศึกษาพบว่าเปอร์เซ็นต์การยับยั้งการเจริญของเส้นใยเชื้อรา        B. Maydis ของเชื้อรา C. globosum มีค่าเท่ากับ 51.16% หลังจากนั้นนำเชื้อรา C. globosum มาสกัดด้วยตัวทำละลายเมทานอลและเอทิลอะซิเตท และนำสารสกัดหยาบจากเชื้อรา C. globosum มาทดสอบการยับยั้ง    เชื้อรา B. maydis ภายใต้ห้องปฏิบัติการและสภาพโรงเรือน โดยพบว่าสารสกัดหยาบจากเชื้อรา C. globosum ...
      PubDate: 2021-08-27
      Issue No: Vol. 38, No. 2 (2021)
       

  •        

    • Authors: ดวงพร อมรเลิศพิศาล, สินีนาฏ ภู่ระยับ, ลภัสรดา มุ่งหมาย, เกรียงศักดิ์ เม่งอําพัน, ณัฐวุฒิ หวังสมนึก
      Pages: 46 - 56
      Abstract: ดอกเก๊กฮวยมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจึงได้รับความนิยมนำมาผลิตเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรในแถบเอเชีย ส่วนการนำดอกเก๊กฮวยมาเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางยังพบอยู่น้อยมาก ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินสารชีวภาพและฤทธิ์ทางชีวภาพของดอกเก๊กฮวยอินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อการชะลอวัย โดยทำการสกัดดอกเก๊กฮวยอินทรีย์แห้งด้วยน้ำและตรวจหาสารสำคัญ จากนั้นนำไปทดสอบฤทธิ์ชะลอวัย ได้แก่ ฤทธิ์ขจัดอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์คอลลาจิเนส และไทโรซิเนส ผลการทดลองพบว่า สารสกัดดอกเก๊กฮวยอินทรีย์มีองค์ประกอบสำคัญของสารประกอบฟีนอลิก ฟลาโวนอยด์ และเคอร์ซิติน เท่ากับ 72.28 mgGAE, 16.54 mgQE  และ 402.47 mg/kg ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพในการขจัดอนุมูลอิสระเอบีทีเอส ดีพีพีเอช และซุปเปอร์ออกไซด์ โดยมีค่าการยับยั้งอนุมูลดังกล่าวได้ 50% (IC50) เท่ากับ 0.22, 0.32 และ 9.39 mg/ml ตามลำดับ รวมทั้งยังสามารถยับยั้งเอนไซม์คอลลาจิเนสและไทโรซิเนสได้ มีค่า IC50 เท่ากับ 2.33 และ 102.11 mg/ml ตามลำดับ ผลการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าสารสกัดด้วยน้ำจากดอกเก๊กฮวยอินทรีย์เป็น...
      PubDate: 2021-08-27
      Issue No: Vol. 38, No. 2 (2021)
       
  • ประสิทธิภาพของด้วงเต่า
           Serangium japonicum และแตนเบียน Eretmocerus sp.
           ในการควบคุมแมลงหวี่ขาวยาสูบ
           Bemisia tabaci ในพริก

    • Authors: นางสาวสายฝน ทดทะศรี
      Pages: 57 - 67
      Abstract: แมลงหวี่ขาวยาสูบ Bemisia tabaci เป็นแมลงศัตรูพืชที่สำคัญในพริก เนื่องจากเป็นแมลงที่เป็นพาหะ นำโรคใบหงิกเหลืองพริก (Pepper yellow leaf curl virus; PeYLCV) การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบประสิทธิภาพการควบคุมแมลงหวี่ขาวยาสูบในพริกด้วยด้วงเต่า Serangium japonicum และแตนเบียน Eretmocerus sp. วางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ (Completely Randomized Design; CRD) 4 กรรมวิธี 6 ซ้ำ กรรมวิธีที่ 1 ไม่ปล่อยศัตรูธรรมชาติ กรรมวิธีที่ 2 ปล่อยด้วงเต่า Serangium japonicum 3 คู่/ต้น กรรมวิธี   ที่ 3 ปล่อยแตนเบียน  Eretmocerus sp. 6 ตัว/ตร.ม. และกรรมวิธีที่ 4 ปล่อยแตนเบียน Eretmocerus sp. 6 ตัว/ตร.ม. ร่วมกับด้วงเต่า Serangium japonicum 3 คู่/ต้น (ปล่อยหลัง 1 สัปดาห์) พบว่าในสัปดาห์ที่ 8 กรรมวิธีที่ 3 พบจำนวนแมลงหวี่ขาวยาสูบน้อยที่สุด คือ 27.67 ตัว/ต้น (ลดลง 17.39 เท่า) ซึ่งมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับกรรมวิธีที่ 2 และ 4 ที่พบแมลงหวี่ขาวจำนวน 48.67 ตัว/ต้น (ลดลง 9.89 เท่า) และ 49.33 ตัว/ต้น (ลดลง 9.75 เท่า) ตามลำดับ พบจำนวนแตนเบียน Eretmocerus sp. มากที่สุดในกรรมวิธีที่ 3 คือ 59.33 ตัว/ตร.ม. ซึ่งมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับกรรมวิธีที่ 4 ที่พบ 12.00 ตัว/ตร.ม. ส่วนจำนวนด้วงเต่า ที่พบในวิธีการปล่อยด้วงเต่าชนิดเดียวและการปล่อยแตนเบียนร่วมกับด้...
      PubDate: 2021-08-28
      Issue No: Vol. 38, No. 2 (2021)
       

  •        

    • Authors: ครุปกรณ์ ละเอียดอ่อน, เทพพร โลมารักษ์
      Pages: 68 - 78
      Abstract: การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่มีในท้องถิ่นสำหรับนำมาเพาะเพาะเห็ดฟาง ทำการวางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ (CRD) จำนวน 4 ซ้ำ ประกอบด้วยวัสดุเพาะ 6 สิ่งทดลอง ได้แก่ 1) ฟางข้าว % ทำการทดลองในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม พ.ศ. 2562 ผลการทดลองพบว่า น้ำหนักสดของดอกเห็ด ความกว้างและความยาวของดอกเห็ด และประสิทธิภาพทางชีววิทยา มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยวัสดุเพาะ 3) ฟางข้าว 50% ผสม ผักตบชวา 50% มีค่าสูงที่สุดเฉลี่ยเท่ากับ 2,105±0.86 กรัม 3.68 ซม. 5.49 ซม. และ 14.88% ตามลำดับ และยังพบว่าอายุในการเกิดเส้นใย อายุการเกิดตุ่มดอก และ     การเกิดดอกตูม มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยวัสดุเพาะ 3) ฟางข้าว 50% ผสมผักตบชวา 50% มีอายุสั้นที่สุด เฉลี่ยเท่ากับ 7.25, 9.75 และ 9.25 วัน ตามลำดับ และยังพบว่าวัสดุเพาะดังกล่าว มีความหนาแน่นของเส้นใยอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ส่วนน้ำหนักแห้งของวัสดุเพาะ ค่าความเป็นกรด−ด่างของวัสดุเพาะ ทั้งก่อนเพาะและหลังเพาะ พบว่าไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ดังนั้นวัสดุเพาะ 3) ฟางข้าว 50% ผสมผักต$...
      PubDate: 2021-08-29
      Issue No: Vol. 38, No. 2 (2021)
       

  •        การใช้ประโยชน์วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรของเกษตรกรในเทศบาลตำบลขี้เหล็ก
           อำเภอแม่ริม
           จังหวัดเชียงใหม่

    • Authors: สามารถ ใจเตี้ย
      Pages: 79 - 88
      Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการใช้ประโยชน์วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรของเกษตรกร  2) คาดการณ์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้ประโยชน์วัสดุ เหลือใช้ทางการเกษตรในครัวเรือนของเกษตรกร และ 3) พัฒนาแนวทางการผลิตวัสดุปลูกพืชจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร กลุ่มตัวอย่างเป็นเกษตรกร จำนวน 159 ราย และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับกิจกรรมการเกษตร  จำนวน 18 ราย ในชุมชนสะลวง–ขี้เหล็ก อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เครื่องมือเป็นแบบสอบถามและการสนทนากลุ่ม การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการศึกษา พบว่า เกษตรกรใช้ประโยชน์วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (ค่าเฉลี่ย 1.94) จำนวนการจัดเก็บวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรพยากรณ์การใช้ประโยชน์วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรของเกษตรกรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value=0.024)  ทั้งนี้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเสนอแนะแนวทางการเพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรให้การสนับสนุนงบประมาณ และพัฒนาแหล่งเรี&#...
      PubDate: 2021-08-28
      Issue No: Vol. 38, No. 2 (2021)
       

  •        การวิเคราะห์องค์ประกอบอาหารชนิดหลักในกระเพาะอาหารปลาตะกรับในทะเลสาบสงขลา
           ด้วยการใช้ดัชนีความสำคัญ

    • Authors: เอกนรินทร์ รอดเจริญ, บงกช วิชาชูเชิด, วรวัช เขียดน้อย, วัชริศ ตั่นไพโรจน์, สุพัตรา สมดวง
      Pages: 98 - 97
      Abstract: ปลาตะกรับ (Scatophagus argus Linnaeus, 1766) หรือปลาขี้ตัง เป็นปลาเศรษฐกิจที่มีการส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงในทะเลสาบสงขลา การศึกษาครั้งนี้        มีวัตถุประสงค์ในการจำแนกชนิดและหาค่าดัชนีความสำคัญของอาหารในกระเพาะอาหารปลาตะกรับ เพื่อพัฒนาอาหารสำหรับการเลี้ยงปลาตะกรับในอนาคต ตัวอย่างปลาถูกสุ่มเก็บมาจากโพงพางบริเวณทะเลสาบสงขลาตอนนอก ในช่วงเดือนมกราคม−มีนาคม พ.ศ. 2561 พบว่าจากตัวอย่างปลาทั้งหมด สามารถวิเคราะห์องค์ประกอบชนิดอาหารในกระเพาะอาหารปลาได้จำนวน 34 ตัว โดยมีความยาวตัวเฉลี่ยเท่ากับ 15.96±0.93 ซม. ผลการศึกษาอาหารในกระเพาะอาหาร พบสัตว์หน้าดินกลุ่มครัสตาเชียน ไส้เดือนทะเล หอย สาหร่าย และ      ไข่ปลา การวิเคราะห์ค่าดัชนีความสำคัญของอาหาร (IRI) พบว่าสัตว์หน้าดินกลุ่มหอย มีค่าดัชนีความสำคัญของอาหารมากที่สุด (IRI=7,305.59) รองลงมาคือ ครัสตาเชียน (IRI=4,473.26) และไส้เดือนทะเล (IRI=166.46) ตามลำดับ การวิเคราะห์ค่าดัชนีความสำคัญของอาหารภายในกลุ่มของสัตว์หน้าดินพบว่า สัตว์หน้าดินกลุ่มหอยสองฝามีค่าดัชนีความสำคัญของอาหาร (IRI=5,955.60) มากกว่าหอยฝาเดียว (IRI=451.33) ส่วนสัตว์หน้าดินกลุ่มครัสต&#...
      PubDate: 2021-08-27
      Issue No: Vol. 38, No. 2 (2021)
       

  •        ผลของวิธีการตอนต่อสมรรถภาพการเจริญเติบโตและส่วนประกอบซาก
           ของแพะลูกผสม (แบล็คเบงกอล x
           ซาเนน) เพศผู้

    • Authors: อภิชาติ หมั่นวิชา, ไพโรจน์ ศิลมั่น , สมปอง สรวมศิริ
      Pages: 98 - 106
      Abstract: การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของวิธีการตอนต่อสมรรถภาพการเจริญเติบโตและส่วนประกอบซากของแพะลูกผสม (แบล็คเบงกอล x ซาเนน) โดยใช้แพะรุ่นเพศผู้ จำนวน 20 ตัว แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม วางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ (CRD) กลุ่มทดลองประกอบด้วย กลุ่มไม่ตอน (ควบคุม; กลุ่มที่ 1) กลุ่มฉีดฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Medroxyprogesterone acetate 50 มก.; กลุ่มที่ 2) กลุ่มตอนด้วยคีมเบอร์ดิซโซ (Burdizzo; กลุ่มที่ 3) และกลุ่มผ่าเอาอัณฑะออก (Castration; กลุ่มที่ 4) ระยะเวลาทดลอง 16 สัปดาห์ ผลการทดลองพบว่า แพะกลุ่มที่ตอนด้วยวิธีต่างๆ มีค่าเฉลี่ยอัตราการเจริญเติบโต (P<0.01) ปริมาณการกินได้ (P<0.01) ต้นทุนค่าอาหาร (P<0.01) อัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นน้ำหนักตัว 1 กก. (P<0.05) และต้นทุนค่าอาหารต่อน้ำหนักเพิ่ม 1 กก. (P<0.05) ดีกว่าแพะกลุ่มที่ไม่ตอนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) แพะกลุ่มที่ตอนมีค่าเฉลี่ยของไขมันรวมสูงกว่ากลุ่มที่ไม่ตอนอย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติ (P<0.01) อย่างไรก็ตามไม่พบความแตกต่างระหว่างแพะเพศผู้ที่ไม่ตอนและการตอนต่อน้ำหนักมีชีวิตเมื่อนำไปฆ่า น้ำหนักซากอุ่น เปอร์เซ็นต์ซาก เปอร์เซ็นต์เนื้อแดง และเปอร์เซ็นต์กระดูก  
      PubDate: 2021-08-27
      Issue No: Vol. 38, No. 2 (2021)
       

  •        การศึกษาและวิเคราะห์ต้นทุนฐานกิจกรรมในกระบวนการผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์
           เพื่อหาแนวทางในการกำหนดราคา
           กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรผ่านศึก
           ตำบลตลุกกลางทุ่ง
           อำเภอเมือง จังหวัดตากuek
           Agricultural Community Enterprise Taluk Klang Thung Sub-district, Muang
           Tak District, Tak Province

    • Authors: ปริดา จิ๋วปัญญา , ภาคภูมิ ใจชมภู
      Pages: 107 - 118
      Abstract: งานวิจัยชิ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและวิเคราะห์กระบวนการผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์พันธุ์ 105 ของเกษตรกรในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรผ่านศึก ตำบลตลุกกลางทุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดตาก โดยใช้การวิเคราะห์ต้นทุนฐานกิจกรรม จากนั้นทำการวิเคราะห์ต้นทุนโดยรวม กำไร และจุดคุ้มทุนของการผลิตสำหรับ  หาแนวทางในการกำหนดราคาขายให้แก่เกษตรกร การศึกษาข้อมูลได้กำหนดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง คือ เกษตรกรจำนวน 26 คน ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรผ่านศึก โดยมีพื้นที่การเพาะปลูกทั้งหมด 205 ไร่ ให้ผลผลิตข้าวหอมมะลิ 260 กิโลกรัมต่อไร่ เกษตรกรทำการผลิตข้าวจำนวน 1 ครั้งต่อปี และเกษตรกรขายข้าวสารหอมมะลิราคา 30-50 บาทต่อกิโลกรัม จากการศึกษาพบว่า การปลูกข้าวหอมมะลิ          พันธุ์ 105 มีกิจกรรมในกระบวนการผลิตทั้งหมด 13 ฐานกิจกรรม จากการวิเคราะห์ต้นทุนโดยรวม กำไร และจุดคุ้มทุน พบว่าราคาขายที่จุดคุ้มทุนอยู่ที่ 33 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งจากราคาที่เกษตรกรตั้งไว้ 40 และ 50  บาท เป็นราคาที่เหมาะสม ไม่มีการขาดทุนและอยู่ในจุดที่ได้กำไร แต่ถ้ากำหนดราคา 30 บา&...
      PubDate: 2021-08-27
      Issue No: Vol. 38, No. 2 (2021)
       

  •        กลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาดข้าวอินทรีย์
           ตำบลลวงเหนือ
           อำเภอดอยสะเก็ด
           จังหวัดเชียงใหม่

    • Authors: Katesuda Sitthisuntikul, บัญจัตน์ โจลานันท์
      Pages: 119 - 129
      Abstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจลักษณะตลาดข้าวอินทรีย์และวิเคราะห์กลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาดข้าวอินทรีย์ ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด             จังหวัดเชียงใหม่ มีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการ สัมภาษณ์ การประชุมกลุ่มย่อย และการสังเกตอย่างมีส่วนร่วม ผลการวิจัยพบลักษณะตลาด 4 ลักษณะ ได้แก่ ตลาดผู้ผลิตซึ่งเป็นการซื้อขายปัจจัยการผลิตและผลผลิตระหว่างผู้ผลิตกับผู้ผลิต ตลาดผู้บริโภคซึ่งเป็นตลาดขายปลีกของผู้ขายและผู้บริโภค ตลาดคนกลางซึ่งผู้ผลิตขายข้าวให้กับคนกลางเพื่อไปจำหน่ายต่อ และตลาดการเรียนรู้ซึ่งเกิดจากลูกค้าที่ต้องการเรียนรู้การผลิตข้าวอินทรีย์ ส่วนกลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาด ด้านผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ปัจจัยการผลิต ข้าวเปลือก ข้าวสีแล้ว ด้านการจัดจำหน่าย ได้แก่ บ้านผู้ผลิต ตลาดนัดในชุมชนและนอกชุมชน การออกบูธ การขายตรง การสื่อสารผ่านโทรศัพท์และสื่อออนไลน์ และการจำหน่ายให้หน่วยรับซื้อกลาง ด้านราคา ได้แก่ การกำหนดราคาตามลักษณะผลิตภัณฑ์ ตามพันธุ์ข้าว ตามลักษณะการขายข้าวสาร ตามบรรจุภัณฑ์ข้ū...
      PubDate: 2021-08-27
      Issue No: Vol. 38, No. 2 (2021)
       

  •        

    • Authors: วรางคณา เรียนสุทธิ์
      Pages: 130 - 143
      Abstract: วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ คือ การสร้างตัวแบบพยากรณ์ที่เหมาะสมกับอนุกรมเวลาปริมาณการส่งออกยางพาราในประเทศไทย โดยใช้ข้อมูลจากเว็บไซต์ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2554 ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 จำนวน 108 ค่า โดยข้อมูลถูกแบ่งออกเป็น      2 ชุด คือ ชุดที่ 1 ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2554 ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2561 จำนวน 96 ค่า สำหรับการสร้าง      ตัวแบบพยากรณ์ด้วยวิธีบ็อกซ์-เจนกินส์ วิธีการปรับเรียบด้วยเส้นโค้งเลขชี้กำลังที่มีฤดูกาลอย่างง่าย วิธีการปรับเรียบด้วยเส้นโค้งเลขชี้กำลังของวินเทอร์แบบบวก วิธีการปรับเรียบด้วยเส้นโค้งเลขชี้กำลังของวินเทอร์แบบคูณ และวิธีการพยากรณ์รวม และชุดที่ 2 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 จำนวน 12 ค่า สำหรับการเปรียบเทียบความถูกต้องของค่าพยากรณ์ โดยใช้เกณฑ์ร้อยละค่าคลาดเคลื่อนสัมบูรณ์เฉลี่ยและเกณฑ์รากของค่าคลาดเคลื่อนกำลังสองเฉลี่ยที่ต่ำที่สุด ผลการศึกษาพบว่า จากวิธีการพยากรณ์ทั้งหมดที่ได้ศึกษา วิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด คือ วิธีการพยากรณ์ũ...
      PubDate: 2021-08-27
      Issue No: Vol. 38, No. 2 (2021)
       

  •        ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการทรัพยากรป่าไม้
           ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ทา
           ตำบลแม่ทา อำเภอแม่ออน
           จังหวัดเชียงใหม่

    • Authors: ณรงค์ เป็งเส้า, สายสกุล ฟองมูล, พหล ศักดิ์คะทัศน์ , พุฒิสรรค์ เครือคำ
      Pages: 144 - 156
      Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัย        ที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการทรัพยากรป่าไม้ และแนวทางในการจัดการทรัพยากร      ป่าไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่ทา ตำบลแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัย เชิงคุณภาพและเชิงปริมาณร่วมกัน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ประชาชนตำบลแม่ทา จำนวนทั้งสิ้น 368 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย จากจำนวนประชากร 4,558 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม และการสนทนากลุ่ม (Focus group discussion) โดยเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพจากผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำหมู่บ้าน และผู้อาวุโส     ในชุมชน จำนวน 9 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล เชิงปริมาณ ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา การถดถอยพหุคูณ (Multiple regression analysis) กำหนดค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมันร้อยละ 95 และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ ศึกษา ได้แก่ เพศ การฝ$...
      PubDate: 2021-08-27
      Issue No: Vol. 38, No. 2 (2021)
       

  •        

    • Authors: Kannapon Phakdeesettakun, Sopit Nasueb, Suladda Pongutta
      Pages: 157 - 168
      Abstract: งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูลด้านบริบทและปัจจัยแวดล้อม รูปแบบและกระบวนการในการดำเนินงาน ผลลัพธ์และผลกระทบที่ชุมชนได้รับจากการดำเนินการ ตลอดจนปัจจัยหนุนเสริมความท้าทายและปัญหาอุปสรรค จากการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ในชุมชนของสถาบันอุดมศึกษา โดยทำการศึกษาด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกใน 5 พื้นที่ ผู้ที่เกี่ยวข้อง 2 กลุ่ม คือ ผู้รับผิดชอบโครงการหรือผู้ที่มีบทบาทหลักของสถาบันอุดมศึกษา จำนวน 13 คน และแกนนำหรือสมาชิกกลุ่มเกษตรอินทรีย์ในชุมชน จำนวน 15 คน รวม 28 คน ผลการศึกษาพบว่า ภายใต้พันธกิจด้านการบริการวิชาการเพื่อรับใช้สังคม การขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์     ในชุมชนของสถาบันอุดมศึกษาประกอบไปด้วยการดำเนินงาน 7 ขั้นตอนด้วยกัน ได้แก่  1) สร้างพื้นที่รูปธรรมต้นแบบ  2) ปรับเปลี่ยนทัศนคติของเกษตรกร  3) พัฒนาคนให้มีความเข้าใจในการทำเกษตรอินทรีย์      ที่แท้จริง  4) หาตลาดรองรับผลผลิตอินทรีย์  5) รับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ที่เหมาะสม  6) ส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรอินทรีย์ และ 7) สร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ โดยการดำเนินกา...
      PubDate: 2021-08-27
      Issue No: Vol. 38, No. 2 (2021)
       
 
JournalTOCs
School of Mathematical and Computer Sciences
Heriot-Watt University
Edinburgh, EH14 4AS, UK
Email: journaltocs@hw.ac.uk
Tel: +00 44 (0)131 4513762
 


Your IP address: 18.206.12.157
 
Home (Search)
API
About JournalTOCs
News (blog, publications)
JournalTOCs on Twitter   JournalTOCs on Facebook

JournalTOCs © 2009-